5.ความปลอดภัยในการขนย้าย นี้เป็นสิ่งแรกที่เราให้ความสำคัญในการใช้บริการใว้ใจเรา

รถเฮี๊ยบขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
รถเฮี๊ยบติดกระบะ เป็นรถบรรทุกขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่มีเครนติดอยู่ด้านบนกระบะ เหมาะสำหรับการขนย้ายสินค้าและเครื่องจักรขนาดเล็กถึงขนาดกลาง น้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน เช่น ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดเล็ก เครื่องจักรขนาดเล็ก แม่พิมพ์ วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
รถเฮี๊ยบติดกระเช้า เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มีเครนติดอยู่ด้านหลังรถและติดตั้งกระเช้ายกคนไว้ด้านบน เหมาะสำหรับการยกและเคลื่อนย้ายคนหรือสิ่งของที่มีความสูงและเข้าถึงยาก เช่น การติดตั้งป้ายโฆษณา ซ่อมบำรุงเครื่องจักรบนที่สูง เป็นต้น
เรารถเฮี๊ยบรับจ้างเขตลาดพร้าว มีบริการทั้งสองแบบ ให้ตรงกับความต้องการการใช้งานของลูกค้าอย่างแน่นอน
รถเฮี๊ยบขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน มักมีน้ำหนักบรรทุกรวม (Gross Vehicle Weight Rating: GVW) ไม่เกิน 15 ตัน เนื่องจากรถที่มีน้ำหนักบรรทุกรวมมากเกินไปจะไม่สามารถวิ่งบนถนนสาธารณะได้ตามกฎหมาย
รถเฮี๊ยบขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน มีข้อดีคือ มีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายได้ง่าย เหมาะสำหรับงานขนย้ายในพื้นที่แคบหรือจำกัด เช่น พื้นที่ภายในอาคารหรือโรงงาน เป็นต้น นอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าหรือซื้ออีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รถเฮี๊ยบขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ไม่สามารถยกน้ำหนักมากได้ ระยะยกไม่ไกลเท่ารถเฮี๊ยบขนาดใหญ่ และไม่สามารถทำงานบนพื้นที่สูงได้

ถเฮี๊ยบขนาดกลาง น้ำหนักไม่เกิน 20 ตัน
รถเฮี๊ยบขนาดกลาง น้ำหนักไม่เกิน 20 ตัน มีข้อดีคือ มีขนาดกะทัดรัดกว่ารถเฮี๊ยบขนาดใหญ่ เคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่า เหมาะสำหรับงานขนย้ายในพื้นที่แคบหรือจำกัด เช่น พื้นที่ภายในอาคารหรือโรงงาน เป็นต้น นอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าหรือซื้อกว่ารถเฮี๊ยบขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม รถเฮี๊ยบขนาดกลาง น้ำหนักไม่เกิน 20 ตัน ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ไม่สามารถยกน้ำหนักได้มากเท่ารถเฮี๊ยบขนาดใหญ่ ระยะยกไม่ไกลเท่ารถเฮี๊ยบขนาดใหญ่ และไม่สามารถทำงานบนพื้นที่สูงได้

รถเฮี๊ยบขนาดใหญ่ น้ำหนักไม่เกิน 30 ตัน
รถเฮี๊ยบขนาดใหญ่ น้ำหนักไม่เกิน 30 ตัน มักมีน้ำหนักบรรทุกรวม (Gross Vehicle Weight Rating: GVW) ไม่เกิน 45 ตัน เนื่องจากรถที่มีน้ำหนักบรรทุกรวมมากเกินไปจะไม่สามารถวิ่งบนถนนสาธารณะได้ตามกฎหมาย
รถเฮี๊ยบขนาดใหญ่ น้ำหนักไม่เกิน 30 ตัน มีข้อดีคือ สามารถยกน้ำหนักได้มาก ระยะยกไกล และสามารถทำงานบนพื้นที่สูงได้ เหมาะสำหรับงานขนย้ายขนาดใหญ่ เช่น ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ เครื่องจักรขนาดใหญ่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม รถเฮี๊ยบขนาดใหญ่ น้ำหนักไม่เกิน 30 ตัน ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น มีขนาดและน้ำหนักที่ใหญ่กว่ารถเฮี๊ยบขนาดเล็กและขนาดกลาง ทำให้เคลื่อนย้ายได้ยากกว่า นอกจากนี้ยังต้องใช้คนขับและช่างที่มีทักษะและประสบการณ์ในการทำงานกับรถเฮี๊ยบขนาดใหญ่อีกด้วย

พื้นที่ให้บริการรถเฮี๊ยบรับจ้างเขตลาดพร้าวทั่วประเทศ
แยกลาดพร้าว (ห้าแยกลาดพร้าว) ถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต
แยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก
แยกภาวนา ซอยลาดพร้าว 41
แยกโชคชัย 4 ถนนโชคชัย 4
แยกเกตุนุติ ซอยลาดพร้าว 64
แยกลาดพร้าว 80 ซอยลาดพร้าว 80
จุดตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม
แยกลาดพร้าว 112 ซอยลาดพร้าว 112
แยกมหาดไทย ซอยลาดพร้าว 122
แยกลาดพร้าว 101 ถนนลาดพร้าว 101
แยกแฮปปี้แลนด์ ถนนแฮปปี้แลนด์
แยกบางกะปิ (สามแยก) ถนนศรีนครินทร์
แยกบางกะปิ (สี่แยก) ถนนนวมินทร์ ถนนเสรีไทย และถนนพ่วงศิริ
ถนนลาดพร้าว (อักษรโรมัน: Thanon Lat Phrao) เป็นถนนสายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นที่ห้าแยกลาดพร้าว (หรือที่นิยมเรียกว่า "ปากทางลาดพร้าว") ในพื้นที่เขตจตุจักร ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต มีทิศทางมุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านจุดตัดกับถนนรัชดาภิเษก ข้ามคลองน้ำแก้ว ผ่านพื้นที่แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ในระยะสั้น ๆ ข้ามคลองลาดพร้าวเข้าสู่พื้นที่เขตวังทองหลาง เป็นเส้นแบ่งเขตการปกครองระหว่างแขวงสะพานสอง กับแขวงวังทองหลาง ตัดกับถนนโชคชัย 4 และถนนประดิษฐ์มนูธรรม จากนั้นเป็นเส้นแบ่งระหว่างแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์กับแขวงพลับพลา จากนั้นตัดกับถนนลาดพร้าว 101 เข้าสู่พื้นที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ผ่านสามแยกบางกะปิซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์ ไปสิ้นสุดที่สี่แยกบางกะปิซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนนวมินทร์และถนนพ่วงศิริ โดยมีถนนที่ตรงต่อเนื่องต่อไปคือถนนเสรีไทย
ถนนลาดพร้าวได้รับการกำหนดเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3185 ต่อมาเปลี่ยนเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 336 แต่ปัจจุบันอยู่ในความควบคุมของกรุงเทพมหานคร (ยกเว้นสะพานเข้าถนนลาดพร้าว ที่ยังอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง) ช่วงระหว่างห้าแยกลาดพร้าวจนถึงจุดตัดกับถนนรัชดาภิเษก มีระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ในขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (คาดหมายสามารถเปิดให้บริการในปลายปี พ.ศ. 2564) เริ่มตั้งแต่บริเวณสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ไปจนถึงสามแยกบางกะปิ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้แนะนำประชาชนให้เผื่อเวลาในการเดินทางเนื่องจากการจราจรนั้นจะติดขัดมากโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยสามารถใช้เส้นทางถนนนาคนิวาส ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซอยลาดพร้าว 80 ซอยลาดพร้าว 64 และทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่อาจจะติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้
ในปี พ.ศ. 2556 ถนนลาดพร้าวได้รับการจัดอันดับให้เป็นถนนที่มีการจราจรติดขัดที่สุดในกรุงเทพมหานคร[1] ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 มีรายงานจากกรมควบคุมมลพิษว่า ถนนลาดพร้าวมีปริมาณฝุ่นละอองที่มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐาน นับว่ามากที่สุดในกรุงเทพมหานคร เทียบเท่ากับถนนอินทรพิทักษ์ในฝั่งธนบุรี
77. เขตลาดพร้าว

บริการรถเฮี๊ยบรับจ้างเขตลาดพร้าวกับเรานั้นดีอย่างไร สรุปได้ดังนี้
1.สะดวก รวดเร็ว เรามีรถเฮี๊ยบรับจ้างเขตลาดพร้าวให้บริการหลากหลายประเภท หลายขนาด หลายน้ำหนัก สามารถเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ นัดหมายได้ล่วงหน้า เรามีทีมงานที่พร้อมให้บริการอย่างรวดเร็ว
2.ปลอดภัย พนักงานของเราได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี มีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานกับรรถเฮี๊ยบรับจ้างเขตลาดพร้าว มีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน มั่นใจได้ว่างานขนย้ายของคุณจะปลอดภัย
3.คุ้มค่า เราให้บริการรถเฮี๊ยบรับจ้างเขตลาดพร้าวในราคาที่ย่อมเยา เปรียบเทียบราคาได้ มั่นใจว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
4.มีประกัน เรามีประกันคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของคุณ หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
5.บริการประทับใจ เราคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ให้บริการด้วยความสุภาพ รวดเร็ว เต็มใจให้บริการ
*****ตัวอย่างงานที่คุณอาจใช้บริการรถเฮี๊ยบรับจ้างกับเรา ได้แก่*****
#ขนย้ายเครื่องจักรขนาดใหญ่
#ขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์
#ขนย้ายวัสดุก่อสร้าง
#ติดตั้งป้ายโฆษณา
#ซ่อมบำรุงเครื่องจักรบนที่สูง
หากคุณมีงานขนย้ายที่ต้องใช้รถเฮี๊ยบรับจ้างเขตลาดพร้าว โปรดติดต่อเรา เรายินดีให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพ และบริการที่มีคุณภาพ